ตรวจเนื้อผลิตภัณฑ์
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน และนำไปใช้อ้างอิงได้ ... จำเป็นต้องตรวจสอบค่าต่างๆ
ในปัจจุบันนี้ ผู้ที่เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง จะมาแอบอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ของตน ดังเช่นอดีตที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว เพราะทาง อย. จะเข้มงวดมากขึ้นกับมาตรการในการตรวจสอบ ดังนั้น ผู้ประกอบการทุกรายจะอ้างสรรพคุณทางการตลาด ก็จำเป็นต้องมีการทดสอบเนื้อผลิตภัณฑ์ของตนเองว่า มีสรรพคุณตามที่ฝ่ายการตลาดเคลมได้หรือไม่ ... ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะมีความผิดฐานหลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งจะมีคดีความตามมาอีกหลายอย่าง
ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใดที่ต้องการจะอ้างสรรพคุณเพื่อใช้ในการทำตลาด ก็จะต้องมีเอกสารหลักฐานมาใช้ประกอบการอ้างอิงเสมอ
SPF & PA
สำหรับผลิตภัณฑ์กันแดดทุกชนิด ถ้าจะต้องการเคลมค่า SPF และ PA จะต้องมีเอกสารจากห้องปฏิบัติการที่มาตรฐาน เพื่อนำไปใช้ประกอบการยื่นขอจดแจ้งเลขที่ อย. - จึงจะสามารถนำไปใช้อ้างอิงที่บรรจุภัณฑ์ได้ ดังนั้นผู้ประกอบการทุกรายจะต้องส่งตรวจหาค่า
เชื้อจุลินทรีย์
การตรวจเนื้อผลิตภัณฑ์หาเชื้อจุลินทรีย์ (Micrological Test) เป็นสิ่งที่จำเป็นในกรณีที่คุณต้องการจะส่งออกผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในต่างประเทศ และแต่ละประเทศก็มีมาตรฐานที่แตกต่างกัน
NANO
ถ้าคุณต้องการจะอ้างว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นนาโน คุณจำเป็นต้องส่งตรวจวัดขนาดอนุภาคของเนื้อครีมว่า ซึ่งต้องมีขนาดอนุภาคอยู่ระหว่าง 200 - 800 nm การอ้างอิงนาโน ยังมีข้อโต้แย้งและยังไม่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ
SPF & PA
เวลา 20 - 30 วัน
ใช้ยื่นขอ อย.
Water Proof
หาเชื้อจุลินทรีย์
เวลา 20 - 30 วัน
ใช้ยื่นเพื่อขอส่งออก
สารต้องห้าม
สรรพคุณ
ปัจจุบันการจะอ้าง สรรพคุณของผลิตภัณฑ์ เช่น หน้าขาวใส ลดฝ้ากระ ลดริ้วรอย เป็นต้น จะต้องมีผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน เพื่อนำไปใช้เคลมทางการตลาด เพราะถ้า อย. ตรวจพบโฆษณาของคุณว่า มีการแอบอ้างโดยที่ไม่มีผลจากห้องแลบมายืนยัน ก็จะมีความผิดตามกฎหมายได้ และผู้ใดที่รับรีวิวสินค้า โดยไม่ได้ทำการตรวจสอบเอกสาร ทำไปอย่างอดีตที่ผ่านมา ก็จะเข้าข่ายมีความผิดด้วยเช่นกัน
เวลา 30 - 45 วัน
- ไฮโดรคิวโนน
- สเตียรอยด์
- กรดวิตามินเอ
- ปรอท
- โลหะหนัก
สรรพคุณ
สารต้องห้าม
ปัจจุบันมีการนำสารต้องห้าม เช่น ไฮโดรคิวโนน สเตียรอยด์ กรดวิตามินเอ ปรอท โลหะหนัก มาใส่ในเครื่องสำอาง กันอย่างแพร่หลาย โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค และเจ้าของแบรนด์หลายรายมักถูกร้องเรียนว่าใส่สารต้องห้ามในผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการปกป้องธุรกิจของคุณไม่ให้เสียหาย การตรวจหาสารต้องห้ามเหล่านี้ จะช่วยให้คุณนำมาใช้ยืนยันผลิตภัณฑ์ของคุณได้
ตรวจสภาพผิว
ตรวจสอบสภาพผิวด้วยเครื่อง CUTOMETER : DUAL MPA 580 ที่ใช้วัดความยืดหยุ่นของผิวหนัง โดยใช้งานร่วมกับหัววัดประเภทต่างๆ ได้แก่ Corneometer (วัดความชุ่มชื้น), Mexameter (วัดปริมาณ melanin และ erythema), Sebumeter (วัดปริมาณความมันที่ผิว) และ Cutometer (วัดความยืดหยุ่นผิว)
จากแลบมาตรฐาน
เวลา 30 - 60 วัน
ใช้เคลมทางการตลาด
- ลดการสร้างเมลานิน
- ลดริ้วรอย
- ความชุ่มชื้น
- ความยืดหยุ่น
- ต้านอนุมูลอิสระ
- หน้าขาวใส
- ลดฝ้า กระ
ตรวจสภาพผิว
CUTOMETER : DUAL MPA 580
เวลา 15 - 30 วัน
ใช้ทดสอบผลิตภัณฑ์
- วัดความชุ่มชื้น
- วัดเม็ดสีเมลานิน
- วัดความมันของผิว
- วัดความยืดหยุ่น