ปัจจุบันเรามักจะเริ่มได้ยินคำว่า Sirtfood (Sirtuin food) ถี่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ และกลุ่มคนที่สนใจเรื่องชะลอวัย จากการวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การจำกัดแคลอรี่ (Caloric Restriction) ร่วมกับอาหาร sirtfood diet (เซอร์ทฟูดไดเอท) เป็นอาหารสำคัญที่ช่วยชะลอวัยได้ดี
นักวิจัยกำลังค้นหากันว่า มีอาหารเสริมตัวใดบ้างที่ช่วยกระตุ้นเอ็นไซม์เซอร์ทูอีน (Sirtuin) ได้ดี แม้ว่าปัจจุบันจะมีอาหารตามธรรมชาติหลายชนิดที่สามารถกระตุ้นเซอร์ทูอีนได้ก็ตาม บทความนี้จะพูดถึงอาหารในธรรมชาติ 10 อันดับแรกที่สามารถกระตุ้นเซอร์ทูอีนได้ และเป็นอาหารชะลอวัยที่หาได้ง่าย
◼ เซอร์ทูอีน (Sirtuin) คืออะไร?
เซอร์ทูอีน เป็นยีนที่ควบคุมการทำงานของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย รวมไปถึงการเผาผลาญพลังงาน, การอักเสบ และการมีอายุที่ยาวนาน
บทบาทหลักของ sirtuins คือการควบคุมกิจกรรมของยีนสําคัญ ที่รับผิดชอบต่อการเผาผลาญ, การป้องกันเซลล์, การสืบพันธุ์และหน้าที่อื่นอีกมาก Sirtuins (SIRT1) ยังช่วยปรับการทํางานของสมองและความจํา นอกจากนี้ ยังพบว่า Sirtuins (SIRT6) ควบคุมความยาวของเทโลเมียร์ได้ด้วย
◼ เซอร์ทฟูด (Sirtfood) คืออะไร ?
อาหารที่มีสารกระตุ้นเอ็นไซม์เซอร์ทูอีนในปริมาณสูง เรียกว่า เซอร์ทฟูด (Sirtfood) ซึ่งมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน มาดูกันว่า 10 อันดับแรกมีอะไรบ้าง
1. แบล็คเคอร์แรนท์ (Blackcurrants)
เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งเบอร์รี่” ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า “แอนโทไซยานิน” (Antocyanins) ที่ขึ้นชื่อเรื่อง การบำรุงสายตาและ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, สโตร๊ค และหัวใจวายได้ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องเบาหวานได้ด้วย
2. ชาเขียว (Green tea)/มัทฉะ
ชาเขียวมัทฉะจะมีวิตามินบี, กรดโฟลิค, แมงกานีส, โปตัสเซียม, แมกนีเซียม, คาเฟอีน และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ EGCG (Epigallocatechin gallate) เป็นสารสำคัญที่พบได้ในชาเขียว มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่า วิตามินซี 100 เท่า และวิตามินอี 25 เท่า EGCG มีศักยภาพในการลดน้ำหนักอย่างเป็นธรรมชาติ โดยกระตุ้นให้เกิดการกระจายไขมันและการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย นอกจากนี้ EGCG ยังช่วยลดคอเลสเตอรอล, ป้องกันการเกิดมะเร็ง, ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด, ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายและปัองกันโรคอัลไซเมอร์ได้ แนะนำให้ดื่มวันละ 2-3 แก้วจะมีประโยชน์มาก
3. ดาร์คชอคโกแลต (Dark Chocolate)
การกินดาร์คช็อกโกแลตทุกวันได้พิสูจน์แล้วว่า มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ เนื่องจากมีไขมันและน้ำตาลสูง จึงแนะนำให้กินปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น
4. ผักเคล (Kale)
เป็นผักในตระกูลเดียวกับกะหล่ำ บรอกโคลี และคะน้า เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสูงมาก อุดมไปด้วยสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ เช่น lutein, zea-xanthin, beta-carotene และวิตามินหลายชนิด ซึ่งพบมากว่าที่พบในพืชสีเขียวชนิดอื่น .
5. น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ (Extra Virgin Olive Oil หรือ EVOO)
นิยมใช้ในวงการอาหาร ตลอดจนวงการด้านความงามและสุขภาพ เปรียบเสมือนเป็น “น้ำมันแห่งชีวิต” ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด, ช่วยควบคุมความดันโลหิต, เป็นแหล่งของเส้นใยอาหาร ที่ใช้ทดแทนผักและผลไม้ได้ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น โซเดียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก, ฟอสฟอรัส และ ไอโอดีน นอกจากนี้ ยังมี วิตามินที่สำคัญ และ กรดอะมิโนที่จําเป็นด้วย
6. ผักชีฝรั่ง (Parsley)
ผักชีฝรั่ง เป็นสมุนไพร ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ที่ใบมีคอเลสเตอรอลและไขมันเป็นศูนย์ แต่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระวิตามิน, แร่ธาตุและใยอาหารสูง
ผักชีฝรั่ง มีส่วนประกอบสำคัญ 2 อย่างที่ไม่เหมือนพืชชนิดอื่นและให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ไม่เหมือนใคร
มีส่วนประกอบของ น้ำมันหอมระเหย myristicin, limonene, eugenol, และ alpha-thujene
ฟลาโวนอยด์ รวมทั้ง apiin, apigenin, crisoeriol และ luteolin
ถือได้ว่า ผักชีฝรั่ง เป็นสมุนไพรที่มี วิตามินเค สูงที่สุด และมีบทบาทสำคัญมากต่อกระดูก
7. เคเปอร์ (Capers)
เคเปอร์เป็นส่วนตาดอกขนาดเล็กของไม้พุ่ม Capparis ตา (ที่สุกพร้อมเก็บ) จะเป็นสีเขียวมะกอกเข้มและขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพด เคเปอร์ถูกเก็บรักษาไว้หลายรูปแบบ – ทั้งในเกลือ, น้ำส้มสายชู, น้ำเกลือหรือน้ำมันมะกอก
เคเปอร์เป็นแหล่งที่มี สารประกอบฟลาโวนอยด์ อย่าง รูติน (Rutin) และเคอร์เซติน สูง รูติน ช่วยเสริมสร้างเส้นเลือดฝอยและยับยั้งการก่อตัวของเกล็ดเลือดในหลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีวิตามินที่ดีต่อสุขภาพ เช่น วิตามินเอ, วิตามินเค, ไนอาซิน และไรโบฟลาวิน
8. หัวหอม (Onions)
หัวหอม มีโครเมียม ซึ่งช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือด ปริมาณรวมของโพลีฟีนอลทั้งหมดไม่เพียงแต่ขะสูงกว่าในผัก, หัวหอม แต่ยังสูงกว่าผักกระเทียมและกระเทียมแต่ยังสูงกว่า มะเขือเทศ, แครอทและพริกหยวกแดง
หัวหอม นิยมใช้ทานแบบดิบ มากกว่าปรุงให้สุก จะมีสารประกอบกํามะถันหลายชนิด อยู่ในน้ำมันระเหยที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ หัวหอมแดงดิบ เป็นตัวที่กระตุ้นเซอร์ทูอีนได้ดีที่สุด
9. ขมิ้นชัน (Turmeric)
เคอร์คูมิน เป็นสารออกฤทธิ์หลักในขมิ้นชัน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ และ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งมาก ขมิ้นนิยมใช้สําหรับ โรคข้ออักเสบ, อาหารไม่ย่อย, ปวดท้อง, ท้องร่วง, ก๊าซในลําไส้, ท้องอืด, เบื่ออาหาร, ดีซ่าน, ปัญหาตับและความผิดปกติของถุงน้ำดี นอกจากนี้ยังมักนำมาใช้รักษาอาการซึมเศร้า, โรคอัลไซเมอร์ และไต
10. น้ำมันตับปลา (Omega-3 Fish Oil)
เป็นสารอาหารที่จำเป็น ที่ได้รับจากอาหารเท่านั้น ปกติร่างกายจะได้รับจากอาหารในแต่ละวันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย น้ำมันตับปลาจึงมีความจำเป็น
ปกติจะพบ Omega-3 Fatty acid (Omega 3-FFA) มากใน ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาสเตอร์เจียน ปลากระบอก ปลาบลูฟีช และปลาซาร์ดีน
อ่านถึงจุดนี้แล้ว ก็ต้องมาทบทวนเมนูอาหารในแต่ละวันของเรากันด้วยนะครับ มีอะไรที่เป็น Sirtfood กันบ้าง
ผู้สนใจ สอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ ...
⫸ Tel. 082-777-4461, 092-247-7006
⫸ Line ID: baramilab หรือ sale.04
Comments